30 มีนาคม 2560

[Fans Film] เมื่อ Star wars มาโคจรกับ South Park

"Always two there are; no more, no less. A master and an apprentice."

Park Wars : The Little Menace เป็นหนังสั้น ทำโดยเว็บ www.parkwars.com (ปิดตัวแล้ว) คาดว่านี่น่าจะอยู่ช่วงต้นยุค 2000s จากแหล่งที่มา ต้นฉบับจะยาว 64 นาที แต่ทางลูคัสฟิลม์ขอให้ตัดทอนจนเหลือ 11 นาที และน่าเสียดายที่เราไม่เจอ  ภาคต่อ เป็นไปได้ว่าอาจสูญหายหรือไม่ได้ทำต่อไปแล้ว โดยเนื้อหาในนี้จะเลียนแบบจากตัวหนัง Star Wars Episode 1 โดยมีเนื้อหารวบรัดและใช้คาแรกเตอร์จาก South Park 

Trailer 

 




ตัวหนังสั้น



28 มีนาคม 2560

เห็นอะไรจากรูปนี้มั้ย?

ก่อนจะเริ่มบทความ ผมอยากให้ดูรูปนี้ก่อน
แน่นอนไม่มีมุก ไม่มีตุกติก ทุกคนสังเกตเห็นอะไรบ้าง?


แน่นอนผมได้ถามไว้แล้วในเพจเฟซบุ๊ค


และไอ้เจ้าสิ่งเจอเนี่ยนับว่าเป็นHint ที่บอกPersonality ของทวีคได้อย่างที่ถ้าไม่สังเกตก็ไม่นึกถึงมาก่อน
โดยในเพจผมใบ้ไว้สองคำคือ "ZERO" กับ "ABRAMS"


(ผมลืมบอกไปว่าสองคำนี้หมายถึงของสองสิ่งแต่หมวดเดียวกันครับ) และคำตอบจากแฟนเพจก็ถือว่าค่อนข้างหลากหลาย มีทั้ง
แก้วกาแฟ (เนื่องจากไม่ได้ขออนุญาติจากเจ้าของคอมเม้นผมจึงจำเป็นต้องเซนเซอร์เพื่อเคารพความเป็นส่วนตัว)

หรือแม้แต่หมอนตรงฮอตวิล.............

ส่วนคำตอบจริงๆนั้นก็คือนี่ครับ


อ่าวแล้วแก้วกาแฟล่ะ ถูกมั้ย?
:เอาเป็นว่าผมนับก็แล้วกันครับ (ยกเว้นหมอน :/ )
แล้วไอ้เจ้านี่(และเเก้วกาแฟ) มันสื่ออะไรในตัวทวีคจอมสั่นได้ล่ะ

ถึงจะสั่นแต่ยังต่อเลโก้ได้ lnw lnw lnw
 ใครจะไปรู้ล่ะว่าถึงเด็กนี่จะสั่นเป็นเจ้าเข้าทรง24 ชั่วโมง เค้าเป็นคนที่มีความอดทนและคุมสมาธิได้ดีระดับนึง จากรูปบนที่เห็นบรรดาของเล่นหลายชิ้นที่ต้องพึ่งทักษะการต่อ และรวมถึงการวางแก้วกาแฟที่ขอบหน้าต่าง แสดงถึงนิสัยที่ชอบต่อเติมสร้างสรรค์เองล่ะครับ

แก้วบนขอบหน้าต่างเรียงเป็นระเบียบ แต่นาจะไม่มีรูปแบบ
นั่นรวมถึงโมเดลรถถังเครื่องบินด้วย ถึงตัวคนเขียนจะไม่เคยต่อกันจริงๆ แต่คิดว่าโมเดลที่เห็นน่าจะเป็นโมเดลต่อเองมากกว่าสำเร็จรูปครับถ้าดูจากนิสัยชอบต่อสิ่งของข้างต้น (และผมเห็นกาววางด้านล่างด้วย)



ซึ่งงานโมเดลพวกนี้ถ้าเป็นงานมือโปรและใส่ใจรายละเอียดดีๆถือว่าเป็นศิลปะที่สวยงามมากๆครับ เช่นเพจนี้เป็นเพจของคนไทยเองแหละครับ (โฆษณาเพราะผลงานเค้าดีน่ะครับ)



และดูเหมือนว่า ด.ช.ทวีคจะเป็นนักต่อโมเดลตัวน้อยที่มีความอดทนพยายามถึงจะมีปัญหาสุขภาพรบกวนอยู่สูงพอตัวนะครับ

HAVE A NICE DAY :)))))))
- John Smith

12 มีนาคม 2560

เอริค "ไอ้เหี้ยอ้วน" คาร์ทแมน อาจจะไม่ได้เป็นชายแท้ (มั้ง)

คำอธิบายของตัวคาร์ทแมนในวิกิทางการ(ตอนนี้ถูกลบออกแล้ว)

ล่าสุด(มี.ค. 2017)มีคนเข้าไปแก้Sexualityช่วงนึงถึงถูกลบ

             ถ้าพูดถึงตัวละครในSouth Park ที่เป็นที่นิยมมากที่สุด คงไม่พ้น เอริค ธีโอดอร์ คาร์ทแมน (aka "fatass" ) ที่นิสัยที่เรียกได้ว่าระยำ สถุล และนักเหยียดตัวเอ้ โดยลักษณะนิสัยนั้นคาดว่าตัวเขาอาจเป็น Psychopath (อาการทางจิตที่ขาดความเห็นใจผู้อื่น อ่านต่อได้ที่นี่) แต่หลายตอนเหมือนกันที่แสดงถึง ความสับสนทางเพศ (gender confusion) อย่างเช่นการเล่นกินน้ำชากับตุ๊กตา(แล้วอวยตัวเองว่าเจ๋งที่สุด) หรือการแต่งตัวเลียนแบบเพศตรงข้ามหลายรอบ (เช่น EP.AWESOM-O ที่บัตเตอร์มีคลิปเอริคเล่นเป็นบริทนี่ย สเปียร์กำลังให้จัสติน ทิมเบอร์เลค(คัตเอาท์) "Touch My Body" )
            แล้วนี่แสดงถึงอะไรล่ะ การที่เด็กคนหนึ่งมีพฤติกรรมเลียนแบบผู้หญิงอาจเกิดมาจากการเลี้ยงดูที่เอริคต้องอยู่กับแม่ของเขาคนเดียว เกิดปมด้อยเรื่องพ่อทำให้เขาคิดว่าการเล่นอะไรทำนองนี้จึงไม่เสียหายเพราะไม่มีพ่อเป็นตัวแทน"ความเป็นชาย" ในชีวิต ถึงกระนั้น นอกจากพฤติกรรมการละเล่นแบบผู้หญิงแล้ว เอริคก็ไม่ได้มีพฤติกรรมการใช้ชีวิตอื่นที่เหมือนผู้หญิงแม้แต่น้อย เขาจะชอบเล่นแบบผู้หญิง....ใช่ แต่เขาก็ไม่คิดอยากเป็นผู้หญิงหรือทำตัวเป็นผู้หญิงจริงๆ (เว้นแต่เพื่อจะได้มีห้องน้ำของตัวเอง
            แล้วรสนิยมทางเพศล่ะ? ในEP.Raisins ที่ร้านRaisins ที่มีเด็กเสิรฟ์สวยๆ (แต่รุ่นเดียวกับพวกเด็กๆน่ะ) บรรดาเด็กชายแทบทุกคนในร้านต้างสนใจเด็กเสิรฟ์แทบทุกคน ยกเว้นตัวคาร์ทแมนที่มัวสนใจอาหาร และแสตนที่อกหักกับเวนดี้ (ข้อนี้อาจโต้แย้งว่าเพราะอีริคนั้นเป็นไอ้เหี้ยอ้วนตะกละก็ได้)
น่าจะไม่ต้องอธิบายมั้ง XD
           ในEP.Imaginationland เอริคดั้นด้นให้ไคล์ "อมกระเจี๊ยว(Suck his Balls)" และได้สารภาพรักกับไคล์ในEP.Cartman finds love แต่ทั้งนี้เป็นไปเพราะคิดว่าการทำแบบนั้นถือว่าเป็นการดูหมิ่นเหยียดหยามกันเท่านั้น และตอนสารภาพรักนั้นก็ทำไปเพื่อให้นิโคลและโทเคน (ซึ่งเป็นอเมริกันแอฟริกันทั้งคู่)กลับมาคบกันเท่านั้นเพราะด้วยค่านิยมเหยียดของเอริคเอง (โทษทีนะสาวกkyman อย่าฆ่าผมล่ะ :( )
Fatass x Jew
อ้อ และในEP.Cartman Suck ที่เอริคอมแท่งหรรษาบัตเตอร์ตอนหลับก็เพราะคิดว่าเป็นการดูหมิ่นเหยียดหยามเช่นกัน (และก็พยายามให้บัตเตอร์อมกลับเพราะโดนหลอกว่าจะหายเป็นเกย์)
จงจำไว้ว่าอย่าเอารูปไปไว้รวมๆกันในที่เดียว
               แล้วถามว่าพอจะมีเค้ามั้ยสำหรับทฤษฎีนี้.......มีครับ อย่าเพิ่งรีบจะฆ่าผมไปเลย ในEP.Le Petit Tourette เอริคบอกว่าเคยจับไอ้นั่นของลูกพี่ลูกน้องตัวเอง"โดยอุบัติเหตุ" (น่าสงสัยว่ามันบังเอิญขนาดนั้นเชียวหรือว่าเป็นการจงใจ?) และEP. Fat Butt and Pancake Head มิชท์ คอนเนอร์ (มือคาร์ทแมนที่ทำเป็นหุ่นมือ)ที่ปลอมตัวเป็น เจนนิเฟอร์ โลเปซ ได้เป่าปี"ส่วนตัว" ให้ เบน เอฟเฟล็ค(และถึงขั้นขึ้นเตียงด้วย)  และกุญแจสำคัญที่สุดคือ คิวปิด มี ในEP.Tweek x Craig ครับ
(และใน EP.T.M.I. เอริคได้พยายามวัดจู๋เด็กชายทุกคนในโรงเรียน ยกเว้นตัวเอง อาจนับว่าหลอกดูของชาวบ้านก็ได้ XD )
คิวปิด มีมีแค่เอริคเท่านั้นที่คุยกับเขาได้  เพราะคนอื่นมองไม่เห็น ทำให้น่าเชื่อว่าเขาเป็นจินตนาการของเอริคเอง
                คิวปิด มี ได้พยายามบอกชอบเอริคแต่เอริคปฏิเสธเพราะเขาบอกว่าตัวเองไม่ใช่เกย์ และคิวปิดมีพยายามตื้อเอริคจนได้"นวด"ให้ (จริงๆก็คือตัวเอริคสาวแหนเอง
คิวปิด มี อาจสะท้อนถึงด้านที่ปิดกั้นไว้ของเอริคเอง โดยมีตัวอย่างจากตัวละครอื่นในซีรี่ยนี้ด้วย นั้นคือ........... เฮอร์เบิรต์ แกริสัน ประธานาธิบดีสหรัฐคนปัจจุบันนั่นเอง

โดยแกริสันมีหุ่นเชิดมือคือ มิสเตอร์แฮท โดย มร.แฮท ถือเป็นอีกด้านของแกริสันที่พยายามปฏิเสธ ทั้งเรื่องรักร่วมเพศและเหยียดเชื้อชาติโดยมร.แฮทพูดใบ้ถึงพฤติกรรมลึกๆของแกริสันหลายครั้ง โดยหลังจากที่แกริสันยอมเปิดตัวแล้ว มร.แฮทก็มีเริ่มบทบาทน้อยลงไป โดยเรื่องของแกริสันกับมร.แฮทนี้อาจเป็นกรณีสะท้อนระหว่างคาร์ทแมนกับ คิวปิด มี เป็นได้

 แล้วสรุปว่าไงล่ะ?

              ถึงจะมีหลักฐานและข้อโต้แย้งต่างๆเกี่ยวกับพฤติกรรมทางเพศของเอริคมากมาย แต่ส่วนตัวผมขอสรุปเรื่องนี้ว่า

  HAVE A NICE DAY!
-Jonh Smith